IELTS กับ TOEFL ต่างกันอย่างไร เลือกสอบอะไรดี เรามีคำตอบ

ielts toefl

จะไปศึกษา จะสมัครงานที่ต่างประเทศ จะต้องใช้ใบคะแนนสอบ ielts toefl ดี? เพราะแบบทดสอบทั้งสองตัวนี้มีแนวการสอบที่คล้ายคลึงกัน และสามารถเป็นคะแนนยืนยันของผู้สอบไว้ยื่นกับสถาบัน องค์กรระดับต่างประเทศได้ในระดับสากล

แล้ว ielts กับ toefl (ไอเอล โทเฟล) คืออะไร? แต่ละการทดสอบมีกี่ Sections? บริบทการทดสอบทั้ง 2 นี้ความแตกต่างอย่างไร? ในบทความนี้ทางพี่ๆ จาก Gent จึงมาอธิบายการทดสอบ ระหว่าง ielts toefl นี้มีความแตกต่างอย่างไรบ้าง เพื่อให้น้องๆ สามารถเตรียมความพร้อมก่อนทดสอบได้อย่างเต็มที่กัน


IELTS และ TOEFL คืออะไร

ielts toefl, toefl คืออะไร? ซึ่งโดยทั่วไป น้องๆ จะเคยได้ยินมาคร่าวๆ แล้วว่า 3 แบบทดสอบนี้ เป็นการวัดความถนัดการใช้ภาษาอังกฤษที่คล้ายคลึงกัน แต่จุดประสงค์ในการสอบแตกต่างกันออกไป ซึ่งในหัวข้อนี้จะมาอธิบาย 4 แบทดสอบแต่ละเป้าหมายไว้ใช้ยื่นอะไรบ้าง

IELTS

International English Language Testing System หรือ Ielts คือ การทดสอบความเชี่ยวชาญการใช้ภาษาอังกฤษทางด้านการเขียน (Writing) การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) และการอ่าน (Reading) เป็นหลัก โดยจุดประสงค์การทำ ielts คือ ใช้เป็นใบยื่นโชว์คุณสมบัติของผู้สอบในการเรียนต่อ การทำงาน และการย้ายถิ่นฐานมาใช้ชีวิตประจำวันในต่างประเทศ

TOEFL

Test of English as a Foreign Language หรือ toefl คือ แบบทดสอบความถนัดการใช้ภาษาอังกฤษสไตล์อเมริกันในชีวิตประจำวันเป็นหลัก และวัดความเชี่ยวชาญด้านการเขียน (Writing) การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) และการอ่าน (Reading) เหมาะสำหรับผู้สอบที่ต้องการมาเรียนต่อ สมัครงานในบริษัทเอกชนในประเทศอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย  และนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ

Duolingo

Duolingo English Test หรือ Duolingo คือ การทำแบบทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ทำแบบทดสอบสามารถเลือกระดับเริ่มต้นจนไปถึงระดับความเชี่ยวชาญการใช้ภาษาอังกฤษสูง ในการวัดทักษะการเขียน (Writing) การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) และการอ่าน (Reading) ของตัวเอง อีกทั้งยังนำคะแนนผลสอบ duolingo นี้ไปยื่นกับสถาบันศึกษาทั่วโลกได้อีกด้วย

Pearson

Pearson Test of English หรือ Pearson คือ อีกหนึ่งแบบทดสอบภาษาอังกฤษในแพลตฟอร์มออนไลน์ แบ่งการทดสอบเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ การเขียน (Writing) การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) และการอ่าน (Reading) ซึ่งแบบทดสอบนี้ได้รับยอมรับมาตรฐานระดับสากล สามารถนำผลคะแนนจาก Pearson ไปยื่นกับมหาวิทยาลัยระดับต่างประเทศอย่าง เรียนต่อปริญญาตรี นิวซีแลนด์ หรือ เรียนต่อปริญญาตรี ออสเตรเลียได้สบายๆ

TOEIC

Test of English for International Communication หรือ toeic คือ การทดสอบความถนัดการใช้ภาษาอังกฤษทางด้านการฟัง (Listening) และการอ่าน (Reading) เป็นหลัก โดย toeic นิยมเป็นใบคะแนนยื่นให้กับการสมัครงานในหน่วยองค์กรเอกชน และบริษัทต่างชาติ


IELTS และ TOEFL สำคัญอย่างไร

ielts toefl มีความสำคัญต่อน้องๆ ที่กำลังจะไปศึกษาเข้าไปเรียนต่อปริญญาตรีและเรียนต่อปริญญาโท อังกฤษ ในทวีปยุโรปเป็นอย่างมาก เพราะ ielts toefl เป็นผลทดสอบที่โชว์ศักยภาพของผู้เรียน มีคุณสมบัติพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดี สามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ได้คล่องแคล่ว และเรียนรู้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการในหลักสูตรการเรียนรู้ระดับนักเรียนต่างชาติได้ไม่มีปัญหา จึงทำให้ ielts toefl เป็นดัชนีมาตรฐานระดับสากล ให้ทางสถาบันเป็นตัวชี้วัดคัดเลือกผู้เรียนเข้ามา


IELTS และ TOEFL เหมาะกับใคร

ระหว่างจะสอบ IELTS และ TOEFL เลือกผลสอบแบบไหนเอาไว้ยื่นคะแนนกับสถาบันต่างประเทศดี? ทาง Gent ได้รวบรวมคำตอบ toefl vs ielts ไว้หมดแล้ว

IELTS

  • IELTS เหมาะสำหรับน้องๆ ที่จะยื่นคะแนนความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ในการเรียนต่อเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษและปริญญาโทเป็นอย่างมาก เพราะสถาบันในทวีปยุโรปนิยมรับผลทดสอบจาก IELTS มากกว่า
  • ในระหว่างทำบททดสอบ ผู้บรรยายของ IELTS จะใช้สำเนียงที่มีความเป็น British สูง
  • รูปแบบทดสอบของ IELTS เน้นผู้สอบฟังผู้บรรยายอย่างรอบคอบ แล้วนำคำตอบจากการฟังมาเขียนคำตอบ
  • การสอบ IELTS เน้นการเขียนตำตอบเป็นแบบปรนัย (Multiple choice) แบบเรียงความ (Eassy) และฟังบทสนทนา (Listening Conversation)
  • IELTS มีความละเอียดการใช้ไวย์กรณ์ คำศัพย์ และรูปแบบการใช้ Tense สูงมาก

TOEFL

  • TOEFL เหมาะสำหรับน้องๆ ที่จะยื่นคะแนนความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ ในการเรียนต่อปริญญาตรี อเมริกา และ เรียนต่อปริญญาโท อเมริกา เพราะสถาบันในทวีปอเมริกาเหนือกับใต้นิยมรับผลทดสอบจาก TOEFL มากกว่า
  • ในระหว่างทำบททดสอบ ผู้บรรยายของ TOEFL จะใช้สำเนียงที่มีความเป็น American สูง
  • รูปแบบทดสอบของ TOEFL  เน้นผู้สอบใช้จินตนาการและตรรกะในการพิชิตทำข้อสอบ
  • การสอบ TOEFL เน้นการทำข้อสอบแบบปรนัย (Multiple choice) ทั้งหมด
  • TOEFL ไม่ซีเรียสความเป๊ะรายละเอียดการใช้ไวย์กรณ์ คำศัพย์ และรูปแบบการใช้ Tense เท่าไหร่ แต่ไม่ควรใช้หลักการเขียนเพี้ยนจนอ่านไม่รู้เรื่อง

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง TOEFL vs IELTS

เนื่องจากรูปแบบการทดสอบระหว่าง TOEFL IELTS มี Sections ที่แตกต่างกันมาก แล้ว toefl สอบอะไรบ้าง? และ ค่าสอบโทเฟลเท่าไหร่? ตรงส่วนเนื้อหาคอนเทนต์นี้ ทางพี่ Gent จะมาอธิบายความแตกต่างของ 2 ทดสอบนี้อย่างละเอียดกัน

รูปแบบข้อสอบ

  • IELTS จะใช้กระดาษคอมพิวเตอร์ , กระดาษเขียนเรียงความ 3 พาร์ท และการสอบสัมภาษณ์กับผู้สอบตัวต่อตัว
  • TOEFL จะใช้กระดาษคอมพิวเตอร์ โดยทุกพาร์ทการสอบทั้งหมด

คะแนนเต็ม

  • IELTS คะแนนเต็มอยู่ที่ระดับ 9.0 ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ระดับที่ 5.0
  • TOEFL คะแนนเต็มอยู่ที่ระดับ 990 คะแนน ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ระดับที่ 600 คะแนน

ระยะเวลาการสอบ

  • IELTS ใช้ระยะเวลาการสอบทั้งหมด 2 ชั่วโมง 45 นาที แบ่งออกเป็น การอ่าน (W) 60 นาที , การเขียน (W) 60 นาที , การฟัง (L) 30 นาที และการพูด 11 – 14 นาที
  • TOEFL ใช้ระยะเวลาการสอบทั้งหมด 4 ชั่วโมง แบ่งออกเป็น การอ่าน (W) 60 – 80 นาที , การเขียน (W) 50 นาที , การฟัง (L) 34 – 51 นาที และการพูด 20 นาที

สถานที่สอบ

  • IELTS จะสอบที่ British Council (ตัวแทนการจัดสอบจากสหราชอาณาจักร) และ IDP (ตัวแทนการจัดสอบจากประเทศออสเตรเลีย)
  • TOEFL แบ่งเป็นการสอบ 2 แบบ โดย

รูปแบบที่ 1 คือการสอบ TOEFL iBT จะสอบผ่านคอมพิวเตอร์ของทางศูนย์สอบอาคารอัลม่าลิงค์ (Paradigm TOEFL iBT Test Center) , มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (KBU PROMETRIC TESTING CENTER) และ อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ (The Enterprise Resources Training Co., Ltd.)

กับรูปแบบที่ 2 คือ คือ TOEFL ITP การสอบบนกระดาษโดยเขียนคำตอบด้วยการเลือกข้อที่ถูกต้องบนกระดาษคำตอบ ที่ศูนย์สอบ เอลิสท์โปร กรุงเทพ , เอลิสท์โปร โคราช , อาคารอัลม่าลิงค์ (Paradigm TOEFL ITP Test Center) , อาคารพร้อมพันธ์ (Global Study & Exchange) , บีอีซี เซ็นเตอร์ (BEC Center) , EdNET ลาดพร้าว และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (MJU Language Center)

ค่าสมัครสอบ

  • IELTS ค่าสอบต้องจ่ายค่าสมัครอยู่ที่ 6,900 บาทเป็นต้นไป
  • TOEFL ค่าสอบต้องจ่ายค่าสมัครอยู่ที่ 1,000 – 5,900 บาทเป็นต้นไป

เตรียมสอบ IELTS และ TOEFL อย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง ielts toefl มีการเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้

IELTS 

  • ฝึกทักษะการอ่านแบบ Skimming และ Scanning
  • ฝึกประยุกต์การใช้คำศัพท์วิชาการให้เยอะ
  • จำคําศัพท์ synonym กับ antonym
  • ใช้ Grammar และหลักการใช้ Tense ให้ถูกต้อง
  • ฝึกทำโจทย์จากการฟังบรรยายแล้วนำคำตอบมาเขียน
  • ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษสำเนียงบริติชบ่อยๆ
  • ลองทำข้อสอบเก่าๆ ของ IELTS อย่างสม่ำเสมอ

TOEFL

  • ลองทำข้อสอบเก่าๆ ของ TOEFL อย่างสม่ำเสมอ
  • เรียนรู้การปรับใช้คำศัพท์ synonym กับ antonym เยอะๆ
  • เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
  • ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันบ่อยๆ
  • ลองทำข้อสอบเก่าๆ ของ TOEFL อย่างสม่ำเสมอ

สอบ IELTS หรือ TOEFL ดีนะ

ในปัจจุบันการสอบ ielts toefl เป็นที่ยอมรับในระดับสากลกันอยู่แล้ว จึงทำให้น้องๆ ที่กำลังสมัครสอบไม่ต้องจำกัดการแบบทดสอบทั้งสองตัวนี้มากนัก พี่ Gent จึงแนะนำว่าหากใครถนัดสอบแนนไหนให้เลือกเอาเองเลย ใครชอบการสอบแนวการใช้ภาษาวิชาการและโจทย์ข้อสอบหลากหลายรูปแบบด้วยสำเนียงการบรรยายสไตล์อังกฤษแท้ ให้เลือก IELTS ส่วนใครที่ชอบการสอบแนวตอบปรนัยเน้นใช้ไหวพริบในการตอบสูง ด้วยสำเนียงบรรยายสไตล์อเมริกัน แนะนำ TOEFL


สรุปเกี่ยวกับ IELTS และ TOEFL

การสอบ ielts toefl  ให้พร้อม คือการมีคนไกด์ไลน์แนวทางฝึกฝน และตัวน้องๆ ที่ขยันทำข้อสอบเก่าๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากสนใจเนื้อหาการสอบ ielts toefl ในรายละเอียดเพิ่มเติม

ลองปรึกษากับทางพี่ๆ จาก Gent Study ที่คอยแนะนำแนวทางการติวสอบ ielts toefl ที่ดีแก่ผู้เรียนแน่นอนสนใจ ติดต่อ 062-656-5996 หรือแอดไลน์ @gentedutainment