การสอบ PTE คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ

สอบวัดผลภาษาอังกฤษ PTE

สำหรับใครที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ เช่น เรียนต่ออังกฤษ รวมถึงกำลังมองหางานทำที่ต่างประเทศการสอบวัดผลภาษาอังกฤษ PTE ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเพราะสถาบันการศึกษาจากหลาย ๆ ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์และองค์กรอีก 6,000 กว่าที่ทั่วโลกยังยอมรับผลสอบ PTE  อีกด้วย

แล้วข้อสอบ PTE  คืออะไรจะต้องไปสอบ pte ที่ไหน ใช้ผลคะแนนยื่นมหาวิทยาลัยที่ไหนได้บ้าง ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรวันนี้ทาง Gent Study Abroad จะมาคลายข้อสงสัยที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนหรือคนที่สนใจจากประเทศไทยมากขึ้นไปดูกันเลย


PTE คืออะไร

PTE คือ การสอบวัดผลทักษะภาษาอังกฤษย่อมาจาก Pearson Test of English มีต้นกำเนิดเมื่อปี 2009 จากการพัฒนาของมหาวิทยาลัยในลอนดอน ได้รับการรับรองจาก GMAC (Graduate Management Admission Council) ซึ่งการสอบนี้จะสามารถรู้ผลได้เร็ว แล้วสามารถสอบในระบบออนไลน์ได้ด้วย 

เพื่อให้นักเรียนที่สนใจจะไปศึกษาต่อในต่างประเทศหรือกลุ่มคนทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไรได้นำผลคะแนนการสอบ PTE ไปยื่นสมัครเรียนต่อ หรือหางานทำ และขอทำวีซ่าเพื่อไปในประเทศที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว


PTE ยื่นอะไรได้บ้าง

ใช้คะแนน PTE ยื่นสมัครงาน

PTE อย่างที่ทราบกันในข้างต้นว่ามีประโยชน์ในเรื่องของการวัดผลระดับความรู้ภาษาอังกฤษซึ่งผลสอบจะใช้ได้ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักทีนี้เราจะสามารถนำผลสอบ PET ไปยื่นอะไรได้บ้าง มีดังนี้

  • ยื่นสมัครเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษหรือเรียนต่อปริญญาโทอังกฤษ และสามารถใช้ยื่นกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วสหราชอาณาจักรได้ด้วย 
  • ใช้เพื่อยื่นขอวีซ่าครอบครัวหรือสำหรับการย้ายถิ่นฐานแทนผลสอบ IELTS กับ OET ได้
  • ใช้สมัครงานทั้งในและต่างประเทศได้ทั่วโลก
  • ยื่นขอ Migration การโยกย้ายไปประเทศออสเตรเลียได้ด้วย

PTE มีกี่แบบ

PTE เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่แต่ละข้อจะแบ่งเป็นพาร์ท ๆ ที่มีหลากหลายส่วนผสมกันไปในหลายทักษะ สอบในคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์ เหมาะสำหรับคนที่กลัวตื่นเต้นไม่ชอบโต้ตอบกับคนอื่นการประกาศผลก็รวดเร็วเพราะตรวจด้วย AI ที่ออกแบบมาเพื่อการตรวจลงคะแนนโดยเฉพาะแม่นยำไม่มีผิดพลาดเป็นมาตรฐานแน่นอน ซึ่งหากสอบ PTE ผ่านก็จะมาสามารถขอวีซ่าเพื่อการศึกษาหรือย้ายถิ่นฐานได้โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1. PTE Home

PTE Home เป็นการสอบที่เน้นไปทางด้านทักษะการฟังและพูด สามารถสมัครจองสอบล่วงหน้าภายใน 24 ชั่วโมงได้ การสอบจะไปสอบที่ศูนย์สอบ pte และผลสอบจะประกาศภายใน 48 ชั่วโมงเมื่อสอบเสร็จ สำหรับมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ

  • ระดับ A1 ใช้เพื่อขอวีซ่าครอบครัวในกรณีที่จะไปทำงานที่อังกฤษ ความรู้ภาษาอังกฤษของระดับนี้คือ Beginner
  • ระดับ A2 ใช้เพื่อต่ออายุวีซ่าสำหรับคู่สมรส 
  • ระดับ B1 ใช้ในกรณียื่นขอวีซ่าประเภทเข้าไปตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักร 

2. PTE Academic

ผู้สมัครสอบ PTE Academic ควรมีอายุอย่างน้อย 16 ปีขึ้น เป็นการสอบภาษาอังกฤษออนไลน์ใช้คอมพิวเตอร์ โดยจะเน้นไปในเชิงวิชาการเพื่อให้ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาได้สอบและนำผลที่ได้ไปยื่นเพื่อการศึกษาต่อในต่างประเทศ PTE Academic จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ 

  • PTE Academic Exam เพื่อไปใช้ในการศึกษาต่อ
  • PTE Academic UKVI เพื่อขอวีซ่าหรือย้ายถิ่นฐาน

PTE Test มีกี่ส่วน

PTE Test จะใช้เวลาในการสอบประมาณ 3 ชั่วโมง มีโอกาสเปลี่ยนคำตอบได้แต่ถ้าบันทึกคำตอบไปแล้วก็จะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก PTE Test มีส่วน 4 ส่วนคือ 

  • ส่วน Speaking Part โดยใช้ภาษาอังกฤษที่คุณอาจได้ยินในสภาพแวดล้อมทางวิชาการใช้เพื่อวัดผลความคุ้นเคยในการใช้ภาษาและการพูด
  • ส่วน Writing Part การเขียนมีหัวข้อแตกต่างกันไป เช่น หาคำตอบที่หายไป เลือกคำตอบที่เขียนผิด เติมคำลงในช่องว่าง เป็นต้น
  • ส่วน Reading Part จะมีเนื้อเรื่องให้อ่านสูงสุด 300 คำ เพื่อเป็นการประเมินทักษะในการจับใจความสำคัญและเลือกคำตอบให้ถูกต้องโดยจะมีหลายคำตอบให้เลือก 
  • ส่วน Listening Part คุณมีเวลา 10 นาทีในการฟังและเขียนสรุปของคุณ ต้องใช้ทักษะในการฟังอย่างมาก

PTE Academic Exam

PTE Academic Exam เป็นการสอบด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียน มีระยะเวลาการสอบ 3 ชั่วโมงด้วยกัน ผลการทดสอบภาษาอังกฤษของ PTE เป็นที่ยอมรับของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง


PTE Academic UKVI

PTE Academic UKVI เป็นการทดสอบภาษาอังกฤษจัดทำขึ้นเพื่อใช้ยื่นขอวีซ่าสำหรับการทำงาน การเรียน และการพักอาศัยในสหราชอาณาจักร ผลสอบนี้ได้การยอมรับจากสถาบันการเรียนการสอนของ UK โดยตรง


มหาวิทยาลัยอังกฤษที่ยื่น PTE Test ได้

หาวิทยาลัยอังกฤษที่ยื่น PTE Test ได้

มหาวิทยาลัยอังกฤษที่รับผลสอบ PTE Test เพื่อยื่นเข้าไปศึกษาต่อก็จะมีมากมายส่วนมากแทบจะทั่วประเทศรวมไปถึงทั่วโลกซึ่งทางเราจะยกตัวอย่างมาดังนี้

  • Bournemouth University
  • Cardiff University
  • University of Birmingham 
  • Royal Holloway, University of London 
  • University of Leicester
  • University of Liverpool
  • University of Westminster 
  • Durham University
  • Birkbeck, University of London
  • King’s College London

PTE ต่างจาก IELTS อย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง PTE กับ IELTS จะแตกต่างกันโดยที่

  • PTE จะสอบกับคอมพิวเตอร์ซึ่งแตกต่างกับ IELTS ที่สอบกับคนจริง ๆ สำหรับพาร์ทพูด 
  • ส่วนการทดสอบด้านทักษะก็จะเหมือนกันคือ ฟัง พูด อ่านและเขียน แต่การนับคะแนนจะแตกต่างกัน เช่น ข้อสอบพูดอาจมีการนับคะแนนการฟังเข้าไปด้วยสำหรับการสอบ PTE
  • สอบการฟัง IELTS จะเป็นการฟังและตอบคำถามลงในช่องว่างแต่ PTE จะเป็นการฟังและตอบคำถามโดยการพูดสรุปคำตอบกับคอมพิวเตอร์
  • ข้อสอบเขียน IELTS จะเน้นเรื่องการสอบเขียนกราฟ หรือ การเขียนจดหมายทั่วไปแต่ PTE เป็นการเขียนสรุปจากที่เราอ่านซึ่งสามารถคัดลอกประโยคสำคัญใน text มาตอบได้
  • สอบการอ่านด้านเนื้อหาข้อสอบไม่ต่างอะไรกันมากแต่ PTE จะมีการนับคะแนนที่แตกต่างกันออกไปคือ คะแนนส่วนนี้จะน้อยกว่าส่วนอื่น ๆ 
  • IELTS สอบพูดกับคนจริง ๆ ทำให้อาจจะตื่นเต้นได้แต่กรรมการจะเข้าใจคำตอบของเรา ไม่เหมือนกับ PTE ที่สอบกับคอมพิวเตอร์ซึ่งหากพูดโทนเสียงที่สูงเกินไปคอมจะไม่ตรวจเสียงของเรา ทำให้เสียคะแนนไปง่าย ๆ
  • การนับคะแนน IELTS ทุกข้อมีคะแนนเท่ากันแต่  PTE คะแนนจะต่างออกไปเช่น ส่วนกากบาทอาจได้ 1 คะแนน พูดอาจจะได้ 2 คะแนน

ข้อดี – ข้อเสียของการสอบ PTE

ข้อดีของ PTE อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่สอบ IELTS, TOFEL และ TOEIC ไม่ผ่านและอยากลองเก็งข้อสอบใหม่ ๆ ดูหรือว่ารอบสอบ IELTS อาจจะผ่านมาแล้วทำให้ไปสอบไม่ทันเพื่อขอวีซ่าหรืออะไรก็ตามแต่ PTE ยังเปิดรับอยู่ทำให้มีทางเลือกที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของข้อดีและข้อเสียด้านอื่น ๆ ของ PTE ก็จะมีดังนี้

ข้อดีของการสอบ PTE

  • มีศูนย์สอบในไทยน้อยแต่เลือกศูนย์สอบได้หลายประเทศ
  • ใช้เวลารอผลการสอบน้อย ภายใน 2 วันหลังจากสอบเสร็จ
  • Free Materials ให้ลองทำข้อสอบก่อนฟรี

ข้อเสียของการสอบ PTE

  • PTE เป็นการสอบวัดผลด้านภาษาที่ใหม่มาก ทำให้มีคนรู้จักน้อยและข้อมูลในการสอบ PTE น้อยกว่าข้อมูลในการสอบของ IELTS, TOFEL และ TOEIC ซึ่งเป็นการสอบทางภาษาอังกฤษเหมือนกัน
  • ประเทศไทยการสอบ PTE ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักทำให้ไม่เป็นที่นิยม และศูนย์สอบ pte ก็จะน้อยทำให้รอบสอบก็จะน้อยตามไปด้วย

วิธีจองวันสอบ PTE

วิธีการจองวันสอบ PTE ก็จะง่ายมาก ๆ มีเป็นข้อ ๆ ดังนี้

  1. Create Account และลงทะเบียนโดยตรงผ่านเว็บไซต์ perasonpte.com
  2. กรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน
  3. เลือกศูนย์สอบ PTE ซึ่งประเทศไทยจะมีแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น
  4. ชำระค่าธรรมเนียมการสอบให้เรียบร้อย
  5. นำเอกสารที่ได้ไปยื่นในวันสอบได้เลย

ค่าสอบ PTE เท่าไร

ค่าสอบ PTE

ค่าสอบ PTE จะอยู่ที่ $180 หรือประมาณ 6,200 บาทไทย สำหรับแบบปกติ และ $225 หรือประมาณ 7,750 บาทสำหรับ Late Booking Price หรือนาทีสุดท้าย


สนามสอบ PTE มีที่ไหนบ้าง

ประเทศไทยมีสนามสอบ PTE ในกรุงเทพอยู่ที่ Bangkok Business Building ลงสถานี BTS อโศกหรือ MRT สุขุมวิทได้ง่าย ๆ เลยเหมาะสำหรับคนที่สะดวกเดินทางมาสอบที่กรุงเทพ หรือคนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพอยู่แล้ว

หรือจากที่บ้านก็ได้เพราะ PTE ได้มีระบบการสอบออนไลน์ให้ผู้เข้าสอบ ได้ลงมือทำข้อสอบวัดผลผ่านทางออนไลน์ชื่อว่า PTE Academic Online เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการสอบวัดระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษ


รอบสอบ PTE ต่อปีมีกี่ครั้ง

รอบสอบ PTE ของประเทศไทยก็จะมีรอบการสอบ 2 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งในแต่ละวันจะมีรอบสอบอีก 1-3 รอบต่อวัน และจะมีรอบสอบสำหรับออนไลน์หรือก็คือ PTE Academic Online เยอะมากในทุก ๆ 15 นาทีหรือตลอดทั้งวันเลยก็ว่าได้

ผู้สมัครเข้าสอบก็จะสามารถเลือกสอบตามวันเวลาที่พร้อมได้แบบง่าย ๆ แต่ถ้าจองสอบแบบนาทีสุดท้ายหรือภายใน 48 ชั่วโมงของวันและเวลาที่กำหนด ผู้สมัครสอบก็จะต้องชำระค่าสอบแบบ Late Booking Fee ซึ่งมีราคาแพงกว่าแบบปกติ


ผลสอบ PTE ประกาศเมื่อไหร่ ใช้ได้นานแค่ไหน

ถ้าเราสอบวัดผล PTE เสร็จแล้วจะสามารถรับผลสอบได้เลยภายใน 48 ชั่วโมงเท่ากับ 2 เท่านั้นเองทำให้เรานั้นทราบผลสอบได้เร็วมาก ยังไม่ทันหายตื่นเต้นจากการสอบก็สามารถใช้ผลสอบได้แล้ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ผลสอบแบบด่วนสุด ๆ ซึ่งผลสอบ PTE นั้นมีอายุ 2 ปีนับหลังจากประกาศผลทำให้เราสามารถเลือกยื่นผลคะแนนกับทางมหาวิทยาลัยได้แบบมีเวลาเตรียมตัวอย่างรอบคอบอีกด้วย


สรุปเกี่ยวกับ PTE

สรุปเกี่ยวกับ PTE

การเตรียมตัวไปสมัครเรียนต่อต่างประเทศหรือไปทำงานนั้นค่อนข้างซับซ้อน ทำให้คนที่ต้องการหรือสนใจจริง ๆ ต้องศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ ใช้เวลานานมาก ๆ ทั้งระยะเวลาในการเตรียมสอบและการรอผลสอบก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งการสอบ PTE ทำให้เราใช้เวลาในส่วนนี้ได้น้อยลงและสอบแบบออนไลน์ได้ทำประหยัดเวลาในการเตรียมตัวอย่างมากและผลสอบ PTE ก็เป็นที่ยอมรับในหลาย ๆ ประเทศอีกด้วย

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้คะแนนยื่นเรียนต่อต่างประเทศ สามารถปรึกษา Gent Study Abroad เรายินดีให้บริการแนะนำมาปรึกษาเลยได้เลยค่ะ สนใจ ติดต่อ 062-656-5996 หรือแอดไลน์ @gentedutainment