การเลือกเรียนต่อที่มหาลัยในอเมริกาจัดว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบันภาษาอังกฤษซึ่งก็คือภาษาสากลเป็นภาษาที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานกับชาวต่างชาติ รวมถึงไว้ใช้ในการสื่อสารกับคนทั่วโลกอีกด้วย
อีกทั้งการเลือกเรียนต่อมหาลัยในอเมริกายังช่วยให้คุณได้เปิดโลกทัศน์ ได้ทั้งภาษาและวุฒิการศึกษา เพราะการศึกษาของประเทศอเมริกามีคุณภาพที่สูงมาก มหาวิทยาลัยอเมริกาก็ถูกยอมรับในระดับสากล ไม่เพียงเท่านั้นยังได้ทักษะที่หลากหลาย และได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มสนใจเรียนต่อมหาลัยในอเมริกากันแล้ว ซึ่งเราจะมาแนะนำ 10 อันดับ มหาลัยในอเมริกา สำหรับคนเรียนที่อยาก เรียนต่อปริญญาตรี อเมริกา ว่ามีที่ไหนน่าเรียนบ้าง ที่ไหนดีอย่างไร
1. The Massachusetts Institute of Technology
สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (The Massachusetts Institute of Technology) คือมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในอเมริกาที่ได้อันดับ 1 จากการจัดอันดับของ QS ซึ่งที่นี่ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1861 โดยเป็นสถาบันชั้นนำทางเทคโนโลยีซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านสาขาวิศวกรรมศาสตร์สาขาเคมีและสาขาฟิสิกส์
อีกทั้งเป็นมหาลัยในอเมริกาที่มีเด็กได้เหรียญโอลิมปิค (International Olympic Medals, IOM) ทางด้าน Science และ Math อย่างมากมาย นอกจากนั้นยังมีนักเรียนทุนรัฐบาลไทยเข้ามาศึกษาที่นี่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการันตีได้เลยว่าการเรียนการสอน และการวิจัยของมหาลัยมีคุณภาพแน่นอน
2. Stanford University
“มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด” หรือ มหาวิทยาลัยลีแลนด์สแตนฟอร์ดจูเนียร์ เป็นมหาลัยที่อเมริกาที่มีชื่อเสียงซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1891 โดยตั้งอยู่ที่เมืองสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งที่นี่นับว่าเป็น1 ใน 3 สถาบันชั้นนำทางเทคโนโลยีในประเทศอเมริกา
โดยสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฟิสิกส์ และเศรษฐศาสตร์เป็นสาขาที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่ นอกเหนือจากนั้นที่นี่ก็เด่นในเรื่องของกีฬาอีกด้วย
โดยมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดเคยได้รับถ้วยรางวัล Director’s Cup ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จด้านกีฬา ดังนั้นหากเลือกเรียนที่นี่จะได้รับทั้งความรู้และความสามารถทางด้านกีฬาควบคู่กันไปเลยค่ะ
3. Princeton University
มหาวิทยาลัยในอเมริกาที่เด็กสายอาร์ตและสายมนุษย์ไม่ควรพลาดก็คือ “มหาวิทยาลัยพรินซ์ทัน” ซึ่งก่อตั้งในปี 1746 โดยตั้งอยู่ที่เมืองพรินซ์ทัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ และที่นี่ก็มีห้องสมุดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเวลาอยากได้ข้อมูลเพื่อมาทำโปรเจคจะต้องไปหาที่ไหนไกลเลย
อีกทั้งมหาลัยนี้ยังเปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก โดยค่าเล่าเรียนปริญญาตรีจะอยู่ที่ $47,140 ต่อปี ส่วนค่าเล่าเรียนปริญญาโทจะอยู่ที่ประมาณ $48,940 ต่อปี
5. Columbia University
Columbia University เป็นมหาวิทยาลัยดังในอเมริกาที่เก่าแก่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 1754 และมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นมหาวิทยาลัยในอเมริกาชั้นนำที่มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัยระดับโลก ที่นี่ยังมีศิษย์เก่าและอาจารย์ที่เก่งและมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
การันตีได้จากรางวัลโนเบลสาขาต่าง ๆ ถึง 102 คน อีกทั้งศิษย์เก่าของที่นี่ก็เป็นถึงประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงยังมีนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายก็จบจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
โดยที่นี่มหา ลัย ชื่อ ดัง ใน อเมริกายังมีชื่อเสียงในด้านวิทยาศาสตร์ สาขาอื่น ๆ อีกด้วยเช่นนิติศาสตร์ ศิลปะ วิศวกรรมศาสตร์ ศัลยศาสตร์ และสาธารณสุข ก็มีชื่อเสียงที่ดังไม่แพ้กันค่ะ
6. University of California, Los Angeles
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) คือมหาวิทยาลัยรัฐที่ถูกยอมรับว่าที่ดีที่สุดในอเมริกา และยังเป็นมหาวิทยาลัยระดับชั้นนำระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่เวสต์วูต ของมหานครลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย
อีกทั้งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิสยังอยู่ในระบบไอวีลีกของรัฐบาลอีกด้วย โดยที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรีและมีหลักสูตรให้เลือกเรียนกว่า 337 หลักสูตร สามารถเลือกเรียนได้ตามวิชาที่สนใจได้เลย
7. Williams College
Williams College คือมหาวิทยาลัยศิลปศาสตร์ที่ดีที่สุดในอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ที่ Williamstown, Massachusetts โดยมหาวิทยาลัยนี้มีนักศึกษามากถึง 2,100 คน และมีอาจารย์ระดับ 7 ต่อ 1 ซึ่งที่นี่มีนักเรียนเข้ามาเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี 600 คน-700 คนต่อปี
อีกทั้งมีวิชาให้เลือกเรียนหลากหลายถึง 36 สาขาวิชา ไม่เพียงเท่านั้น Williams College ก็มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับกวดวิชาประมาณ 70 วิชาเลยทีเดียว นอกจากนั้นที่นี่ยังมีอาคารกริฟฟินฮอลล์ หรือมีชื่อเดิมว่า โบสถ์อิฐ
เพราะในสมัยก่อนทั้งโบสถ์ของมหาวิทยาลัยและห้องสมุด แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงและออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น โดยเพิ่มห้องเรียน ห้องบรรยายขนาดใหญ่และพื้นที่จัดงานเข้ามา
8. Yale University
มหาวิทยาลัยเยล คืออีกมหาวิทยาลัย อเมริกาที่อยู่ในกลุ่มของ Ivy League ซึ่งที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับที่ 3 ของอเมริกา โดยก่อตั้งเมื่อปี 1701 มหาวิทยาลัยเยลจะมุ่งเน้นในด้านของหลักการทางวิชาการของการศึกษาเสรีนิยมที่มีความโดดเด่นในด้านการสอน การมีส่วนร่วมภายในชั้นเรียน รวมถึงการเพิ่มพูนประสบการณ์ของนักเรียน
อีกทั้งภายในสถาบันร้านอาหาร ร้านค้า สิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงามใกล้ ๆ กับเมือง New Haven นอกเหนือจากนั้นมหาวิทยาลัยเยลก็มีสาขาวิชาที่มีชื่อเสียงมากมายให้เลือกศึกษาต่อ เช่น รัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา และชีววิทยา
9. Duke University
มหาวิทยาลัยดุ๊ก คือมหาวิทยาลัยเอกชนที่อยู่ในอันดับ 9 ของการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดประจำปีค.ศ.2011 โดยมหาลัยนี้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1838 ที่เมืองเดอแรม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
สมัยก่อนที่นี่มีชื่อว่า Brown’s Schoolhouse โดยตั้งอยู่ที่เมืองไทรนิที จากนั้นในปี ค.ศ. 1892 ได้ย้ายมาที่เมืองเดอแรม และทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Duke University เนื่องจากราชายาสูบ เจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก ได้เป็นผู้ที่บริจาคเงินให้แก่ที่นี่
ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยดุ๊กมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 6,578 คน (ค.ศ.2010) และเป็นมหาลัยในอเมริกาที่ชื่อเสียงในด้านวิชาการหลายด้านอีกด้วย
10. University of Pennsylvania
มาถึงมหาลัยในอเมริกาอันดับสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันแล้ว นั้นคือ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งที่นี่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1740 โดยเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยเอกชนชั้นนำที่เก่าแก่เป็นอันดับที่ 4 ของอเมริกา ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้คือ เบนจามิน แฟรงคลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่สร้างชาติอเมริกาขึ้นมาค่ะ
นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยนี้ยังมีชื่อเสียงด้านพาณิชยศาสตร์และการบัญชีอย่างมาก ซึ่งติดอันดับ 1 ของประเทศมายาวนาน และยังมีสาขาวิชาอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกัน ได้แก่ แพทย์ศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์
โดยที่นี่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ทั้งหมด 4 คณะในระดับปริญญาตรี และ 12 คณะ ในระดับปริญญาโทและเอก อีกทั้งยังมีคนไทยหลายคนที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยนี้ แต่สำหรับการจะเข้ามาเรียนนั้นก็ไม่ง่ายเลย เนื่องจากมีการแข่งขันในการสอบเข้าที่สูงมาก
ข้อดีของการไปเรียนต่อมหาลัยในอเมริกา
ประเทศสหรัฐอเมริกาถูกยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก เพราะที่นี่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกที่ติดอันดับ 10 ของโลกถึง 7 มหาวิทยาลัย
และยังเป็นประเทศที่นักศึกษาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกเลือกเข้ามาศึกษาเรียนต่อกันเป็นจำนวนมาก โดยในหัวข้อนี้มาดูกันว่าข้อดีของการไปเรียนต่อมหาลัยในอเมริกา มีอะไรกันบ้าง
1.มหาลัยในอเมริกาได้รับการยอมรับในระดับสากลโลกว่ามีระบบการศึกษาที่ดีที่สุด
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนระดับปริญญามากกว่า 4,000 แห่ง และยังมีมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกอีกด้วย รวมถึงมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย และอาจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลจากหลายสาขามากมายมาเป็นผู้สอน ดังนั้นจึงทำให้มหาลัยในอเมริกาได้รับการยอมรับในระดับสากลโลก
2.เลือกเรียนที่มหาลัยในอเมริกาจะสามารถแสดงความเปิดได้อย่างอิสระ เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออก
เนื่องจากวัฒนธรรมของคนอเมริกามักจะชอบการพูดตรง ๆ และการทำอะไรอย่างเปิดเผย ซึ่งนั่นจึงร่วมถึงเรื่องของการแสดงความคิดเห็นอีกด้วย ดังนั้นหากเลือกเรียนมหาลัยในอเมริกาไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่สามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้เลย
3.ได้เรียนรู้วัฒนธรรมจากหลายสัญชาติ
เนื่องจากมีนักศึกษาจากหลายประเทศเข้ามาเรียนต่อที่อเมริกาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงทำให้มีโอกาสในการเรียนรู้วัฒนธรรมอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งที่คุ้มค่าแก่การมาเรียนอย่างมาก
อยากไปเรียนต่อปริญญาตรี อเมริกา ทำอย่างไร
อย่างที่เห็นกันไปแล้วว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่หลาย ๆ คน อยากมาศึกษาต่อ เพราะมีข้อดีหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาเรียนที่มีให้เลือกเรียนเยอะ ฝึกภาษาได้ มีมหาวิทยาลัยชั้นนำมากมาย
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากเลือกเรียนต่อปริญญาตรีในอเมริกากัน
โดยขั้นตอนการเรียนต่อปริญญาตรีอเมริกาอาจจะยุ่งยากและซับซ้อน แต่หากคุณมีเอเจนซี่อย่าง Gent ที่จะคอยดูแลทุกขั้นตอนของการเข้าเรียนต่อปริญญาตรีอเมริกา จนถึงเรียนจนจบหลักสูตรเลยทีเดียว
ถ้าคุณกำลังเริ่มวางแผนเรียนต่อที่มหาลัยในอเมริกา หรือต้องการคำแนะนำและปรึกษาการไปเรียนต่อที่อเมริกาสามารถติดต่อกับเราได้ทาง เบอร์ 062-656-5996 หรือที่เว็บไซต์ gentstudyabroad.com เราให้คำปรึกษาและวางแผนการศึกษาต่อฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สรุปเกี่ยวกับมหาลัยในอเมริกา
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? กับบทความของเราในวันนี้ เราหวังว่าน้อง ๆ หลายคนที่กำลังสนใจไปศึกษาต่อปริญญาตรีอเมริกาคงจะได้รับคำแนะนำดี ๆ เพื่อที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนต่อเมริกาในสายวิชาที่ตัวเองต้องการได้นะคะ
