สำหรับน้อง ๆ ที่อยากจะโกอินเตอร์ อยากศึกษาต่อในคณะหลักสูตรนานาชาติไม่ว่าจะมหาลัยชั้นนำของประเทศไทย หรือต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา หนึ่งในคะแนนที่จะต้องให้ความสำคัญเลยก็คือ SAT (Scholastic Aptitude Test) ซึ่งเป็นข้อสอบใช้วัดความถนัดวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ การได้คะแนนที่สูงจะช่วยให้มีโอกาสในการเลือกเข้ามหาลัยอันดับต้นได้มากขึ้น บทความนี้จึงจะชวนมาเตรียมตัว เจาะลึกทุกข้อมูล SAT ที่ควรรู้เพื่อให้ไม่พลาดในสนามสอบ เตรียมตัวไว้ก่อน มีสิทธิเลือกมหาลัยก่อนแน่นอน
SAT คืออะไร
SAT คือ การสอบมาตรฐานสากลที่วัดความถนัดในวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ในระดับอุดมศึกษา ซึ่งจะมีการจัดสอบโดย College Board มีการจัดสอบ 4 ครั้งภายในหนึ่งปี การสอบ SAT นี้มีผลคะแนนที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทำให้คณะภาคอินเตอร์หลาย ๆ แห่งใช้ผลคะแนนสอบ SAT (SAT Reasoning Test) เป็นตัวชี้วัดเข้าพิจารณาคัดเลือกนักศึกษาที่จะทำการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเช่นกัน
อายุเท่าไหร่สอบ SAT ได้
ข้อสอบ SAT มีการวัดการใช้เหตุผลในการสอบ หรือที่เรียกว่า SAT Reasoning Test ดังนั้นไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สอบได้ไม่มีการจำกัดอายุผู้เข้าสอบ เพียงแต่มีการจำกัดระยะเวลาของผลคะแนน ผลคะแนน SAT จะมีอายุ 2 ปีนับตั้งแต่เวลาประกาศผลสอบ ดังนั้นหากจะต้องการใช้คะแนน SAT อีกรอบจึงต้องทำการสอบใหม่อีกครั้ง
SAT ยื่นอะไรได้บ้าง
คะแนน SAT เมื่อสอบแล้วสามารถนำไปเป็นผลงานยื่นได้ตั้งแต่ระบบ TCAS รอบ Portfolio เลย และคณะที่หลายคนใฝ่ฝันในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ เช่น BBA CHULA, BBA TU, EBA CHULA, BE TU, BALAC CHULA, COMARTS CHULA, LL.B. TU, BBA KU, EBA KU และคณะที่เป็นหลักสูตรอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็ใช้ SAT ร่วมในการพิจารณาเช่นกัน
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อในต่างประเทศ ทั้งเรียนต่อปริญญาตรี อเมริกา และเรียนต่อปริญญาโท อเมริกา ก็สามารถยื่นคะแนน SAT ได้ แต่ควรศึกษารายละเอียดการรับ และส่วนคะแนนที่ต้องใช้ให้ดี การเรียนต่อในอเมริกามักใช้การสอบในส่วน Essay ร่วมด้วย
SAT สอบอะไรบ้าง
ข้อสอบ SAT แบ่งออกเป็น 2 วิชา ซึ่งแต่ละวิชาจะมีส่วนที่ต้องเตรียมตัวดังนี้
1. Evidenced – Based Reading & Writing
Evidenced – Based Reading & Writing คือข้อสอบ SAT ในส่วนวิชาภาษาอังกฤษที่เน้นวัดความสามารถด้านการอ่าน คิด วิเคราะห์ภาษาอังกฤษ และการหา Error ของประโยคและแก้ไข โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 800 คะแนน มีเวลาในการทำ 1 ชั่วโมง 40 นาที และมีทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่
- Reading 52 ข้อ
- Writing and Language มีบทความให้อ่าน 4 บทความ รวม 44 ข้อ
2. Mathematics
Math หรือวิชาคณิตศาสตร์ที่จะใช้วัดความถนัดวิชาเลข ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาครอบคลุมคณิตศาสตร์มัธยมต้น และมีเนื้อหาเลขมัธยมปลายแทรกประปราย โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 800 คะแนน มีเวลาในการทำรวม 1 ชั่วโมง 20 นาที และมีทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่
- Math Test – No Calculator มีทั้งหมด 20 ข้อ แบ่งเป็นปรนัยข้อที่ 1-15 และอัตนัยข้อที่ 16-20 การเข้าสอบส่วนนี้ให้เวลา 25 นาที หากตอบผิดคะแนนไม่ติดลบ และไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขเข้าได้
- Math Test – Calculator มีทั้งหมด 38 ข้อ แบ่งเป็นปรนัย ข้อที่ 1-30 และอัตนัยข้อที่ 31-38 สามารถนำเครื่องคิดเลขรุ่นที่ทาง College Board อนุญาตเข้าไปใช้ในการสอบได้ เมื่อตอบผิดคะแนนไม่ติดลบเช่นกัน
SAT Subject Tests คืออะไร
SAT Subject Tests คือ การสอบวิชาเฉพาะทางสำหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เรียกอีกอย่างว่า SAT II คะแนนวิชา SAT Subject Tests มักใช้พิจารณาเพื่อเข้าเรียนในหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น คณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันมีการยกเลิกสอบ SAT Subject ในสหรัฐอเมริกาไปแล้วเมื่อปี 2564 ดังนั้นถ้าหากใครจะสอบคณะไหนที่เคยต้องใช้วิชานี้ ควรศึกษาหาผลการสอบอื่น ๆ ที่สามารถใช้ยื่นแทนได้ด้วยนะ
SAT คิดคะแนนอย่างไร
การคำนวณคะแนน SAT เป็นอีกส่วนสำคัญในการเตรียมตัว เพื่อที่จะได้รู้ว่าคะแนนของเราเข้าใกล้เป้าหมายมากแค่ไหนแล้ว คะแนน SAT ทั้ง 2 ส่วนมีคะแนนเต็มที่ 1600 คะแนน แบ่งเป็น
- English (Evidence-Based Reading and Writing) 800 คะแนน
- Math (No Calculator – Calculator) 800 คะแนน
นอกจากนี้ยังมีคะแนนในส่วน Essay ที่สามารถเลือกสอบได้ตามความต้องการ ส่วนใหญ่จะใช้ยื่นในมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่จะต้องสอบ SAT with Essay ทั้งหมด 2 ข้อ ใช้เวลา 25 นาที มีคิดคะแนนแยกเป็น 3 ส่วน (Reading, analysis และ Writing) คะแนนนับตั้งแต่ 2-8 ในแต่ละส่วน รวมทั้ง 3 ส่วนคะแนนเต็มคือ 24 คะแนน
วิธีสมัครสอบ SAT
ขั้นตอนการสมัครสอบ SAT สามารถทำได้ดังนี้
- ลงทะเบียนที่เว็บไซต์ https://www.collegeboard.org/ สร้าง Account สำหรับการเข้าสู่ระบบ
- กรอกข้อมูลส่วนตัว ทั้งการศึกษา เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ และผลการศึกษา รวมทั้งตอบคำถามให้เรียบร้อย จึงกดยอมรับข้อตกลงของ SAT
- เลือก Select Date and Date Center ถ้าหากสมัครสอบในประเทศไทยให้เลือก Outside the United States จากนั้นกดเลือก Thailand แล้วจึงค้นหาสนามสอบที่ต้องการ ถ้าหากต้องการสอบ Essay ร่วมด้วยสามารถกรอกได้ในขั้นตอนนี้
- อัปโหลดรูปผู้สมัครตามเงื่อนไขของทาง College Board
- เตรียมการชำระเงิน ซึ่งสามารถทำได้ทั้ง Paypal และตัดบัตรเครดิต
- เมื่อระบบแสดง Admission Ticket จึงทำการปริ้นออกมาใช้ยื่นสอบพร้อมกับบัตรประชาชน
ค่าสอบ SAT เท่าไร
ค่าสอบ SAT มีราคาประมาณ 100.50$ หรือประมาณ 3,300 บาทไทย ไม่รวมค่าสมัครล่าช้าประมาณ 29$ หรือประมาณ 986 บาท สำหรับผู้ที่สมัครก่อนวันสอบ1 เดือน หรือน้อยกว่า
สนามสอบ SAT มีที่ไหนบ้าง
สนามสอบ SAT ส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะจัดขึ้นในโรงเรียนนานาชาติของแต่ที่ เช่นกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ ๆ ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร
- สมุทรปราการ
- ปทุมธานี
- นครปฐม
- ระยอง
- ชลบุรี
- ภูเก็ต
- เชียงใหม่
- เชียงราย
ทั้งนี้ควรเลือกสนามสอบที่เดินทางง่าย ใกล้บ้าน และเป็นย่านที่ตัวผู้สอบมีความคุ้นชินมากที่สุด นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบว่าสนามสอบที่เราเลือกเต็มหรือไม่ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และก่อนสอบควรทำการเดินทางไปยังสถานที่จริงเพื่อเช็กเวลาในการเดินทางก่อนเพื่อลดความผิดพลาดก่อนเดินทางไปสอบ
รอบสอบ SAT ต่อปีมีกี่ครั้ง
การสอบ SAT จะจัดขึ้น 4 รอบต่อ 1 ปี โดยในปี 2566 นี้จะแบ่งเป็น รอบเดือนสิงหาคม , เดือนตุลาคม , เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม สามารถเลือกสอบได้หลายรอบ และสามารถคัดเลือกคะแนนสอบที่ดีที่สุดที่มีอายุของผลสอบไม่เกิน 2 ปีเพื่อนำไปยื่นต่อคณะมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้
ผลสอบ SAT ประกาศเมื่อไหร่
ผลสอบ SAT จะมีการประกาศผลหลังจากสอบ 2 – 3 สัปดาห์ สามารถตรวจสอบผลคะแนนได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ College Board ถ้าหากมีผลคะแนนออกมาไม่เป็นที่พึงพอใจก็สามารถสมัครสอบได้ใหม่จนกว่าจะได้ผลคะแนนที่ต้องการ
สรุปเกี่ยวกับ SAT
การสอบ SAT เพื่อการศึกษาที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ไม่ใช่เรื่องยาก การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องของการสมัครสอบ การวางแผนอ่านหนังสือ การเรียนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เข้าใกล้ความฝันมากขึ้น ไม่ว่าจะรวมตัวกันติว SAT กับกลุ่มเพื่อน หรือติวเข้มข้อสอบ SAT กับสถาบันที่มั่นใจ รวมถึงมีแรงใจ และความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ไปถึงเป้าหมาย แค่รู้ข้อมูลเบื้องต้นก่อน ทำความเข้าใจถี่ถ้วน ก็สามารถมั่นใจได้ว่ามีความพร้อมในการก้าวสู่มหาลัยในฝันอีกก้าวหนึ่งแล้ว
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้คะแนนยื่นเรียนต่อต่างประเทศ สามารถปรึกษา Gent Study Abroad เรายินดีให้บริการแนะนำมาปรึกษาเลยได้เลยค่ะ สนใจ ติดต่อ 062-656-5996 หรือแอดไลน์ @gentedutainment