นักศึกษาบางท่านอาจจะมีความสงสัยว่าทำไมเราถึงต้อง Gap Year แล้วมันดียังไง เราควรทำช่วงไหนถึงจะดี ช่วงที่เราว่างเราควรจะทำไรดี มันจะคุ้มไหม ในบทความนี้จะบอกเล่าเกี่ยวกับการ Gap Year สำหรับทุกท่านที่มีความสนใจ
Gap Year คือ อะไร? ทำไมต้อง Gap Year
คำถามที่ใครๆสงสัย แล้วทำให้เกิดคำถามว่า what is a gap year? หรือ gap year แปลว่าอะไร ในหัวข้อนี้เราจะมาตอบคำถามของทุกท่านกันค่ะ คำว่า gap year คือ การที่เราเว้นช่วงระยะเวลาก่อนเข้ามหาลัยหรือหลังจากที่เราเข้ามหาลัย ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เราพึ่งจบ ม.6 หรือช่วงที่เราต้องการจะพักการเรียนไว้ก่อน
ทุกท่านอาจจะเกิดความสงสัย ว่าแล้วทำไมเราต้อง why take a gap year ด้วย เพราะการที่เราต้องการจะ gap year นั้นคือการที่เราต้องการที่จะออกไปหาตัวตนของตัวเองก่อน ที่เราจะทำการเข้ามหาลัยหรือศึกษาต่อ ไม่ว่าจะไปเป็นอาสาสมัคร ทำงานหาเงิน ท่องเที่ยว เพื่อต้องการที่จะเรียนรู้ในทักษะต่างๆ
การที่เรา take a gap year แล้วเราไม่รู้ว่าเราจะต้องทำอะไรนั้นถือว่าเป็นการเสี่ยงที่เราจะทำให้เวลาในช่วง 1 ปีนั้นเสียไปได้อย่างศูนย์เปล่าได้เลย แล้วเราควรจะไปที่ไหนแล้วทำอะไร ในช่วงที่เราแก๊ปเยียร์ดี ประเทศที่คนส่วนใหญ่มักจะไปกันนั้นก็จะมี อังกฤษ อินเดีย อเมริกาใต้ ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ในช่วงที่ไปนั้นพวกเรา
มักจะทำงานหาเงิน ทำงานสาธารณะและท่องเที่ยวไปด้วยในหลายๆประเทศ บ้างก็อาจจะทำงานไปด้วยและก็ท่องเที่ยวไปด้วยตามที่ต่างๆ แต่สิ่งเดียวที่มีร่วมกันนั้นคือเพื่อการหาประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะช่วยทำให้การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยมีความหมายขึ้น และเข้าใจชีวิต จากประสบการณ์ต่างๆมากขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วแก๊ปเยียร์มักจะใช้กับบุคคลที่ไปอยู่ต่างประเทศแต่ในบางครั้งก็ใช้ภายในประเทศได้เหมือนกัน มักจะใช้กับเหล่าบุคคลที่ทำงานหาเงิน หรืออาสาสมัครต่างๆ ที่ไปท่องเที่ยวในช่วงนึงเพื่อที่เรียนรู้เกี่ยวกับความชอบของตัวเองมากขึ้นและในบางครั้ง คำว่า gap year เราก็จะเรียกได้อีกอย่างว่า sabbatical year
Gap Year ในไทยทำได้จริงไหม ?
gap year ในไทยนั้นได้ถูกมัดรวมกับระบบการศึกษาทำให้เด็กที่พึ่งจบ ม.6 เกิดความลังเลว่าควรที่จะ Gap Year ดีไหมคำว่า Gap Year ในไทย คือ การค้นหาว่าตัวเองอยากเรียนอะไร จะเป็นการค้นหาตัวตนที่ผูกติดกับระบบการศึกษามากกว่าการตามหาความหมายของชีวิตหรือค้นหาคุณค่าในตัวเองเลยมักจะเกิดคำถามว่า ถ้าเรา Gap Year เเล้วจะกลับมาได้ไหม แล้วจะเรียนจบไหม หรือจะเปลี่ยนเอกที่เรียนดี”
เพราะภาพความสำเร็จในไทย คือ ใบปริญญา ทำให้คนที่ออกไปในระยะเวลา 1 ปี ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่ล้มเหลว การที่เราหยุดเรียนไป 1 ปี เป็นการค้นหาตัวเองเเบบไหน สมมุติออกมาได้เเล้ว พื้นที่ที่จะอนุญาตให้เด็กคนหนึ่งใช้ Gap year อย่างคุ้มค่ามีมากหรือน้อยแค่ไหน
เพราะด้วยค่านิยมที่ต้องเรียนจบปริญญา แต่ถ้าไป Gap Year แล้วรู้สึกว่าการเรียนมหาลัยไม่ใช่คำตอบแล้วเราจะทำอะไรต่อ เพราะบางคนก็รู้สึกว่าการเรียนมหาลัยก็เพื่อต้องการอัพเงินเดือนขึ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าบางครั้งเรารู้สึกว่าเรา ต้องการที่จะ Gap Year แต่เราไม่อยากที่จะหยุดไป 1 ปีก็จะมี Gap week หรือ Gap month ตามที่ระบบการศึกษาที่จะเอื้อให้เราได้
Gap Year กับ ซิ่ว เหมือนกันไหม
Gap Year กับซิ่วเหมือนกันไหม คำว่า Gap Year คือ ไม่ใช่การซิ่วแต่เป็นการที่เราออกมาค้นหาตัวเองเพื่อที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม เหมือนกันการที่เราเรียนไปได้1ปีหรือ 2 ปี แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเราแต่เราอยากที่จะออกมาค้นหาตัวเองทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้นเพื่อที่จะทำการตัดสินใจที่จะเรียนต่อหรือเปลี่ยนเอกที่ตัวเองอยากจะเรียน
Gap Year ดีไหม
Gap year ดีไหมแล้ว gap year ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับบุคคลที่อยากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความชอบของตัวเอง หรือ ต้องการที่จะค้นหาตัวเองมากขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะถ้าเรารู้จักความชอบของตัวเองมากขึ้น ก็จะทำให้เราในอนาคตทำงานได้ดี เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ ทำให้บุคคลที่ผ่านการเรียนรู้ในด้านที่เราชอบมาแล้ว ทำให้ในการทำงานในอนาคตมีคุณภาพมากขึ้นในสายงานที่เราชอบและยังเกิด benefits of a gap year อีก
ถ้า Gap Year จะทำอะไรดี
Gap Year ทำอะไรดี ช่วงที่เราหยุดไปเราควรจะทำอะไรดี สิ่งที่เราควรจะทำคือ การทำ gap year program
เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราควรจะทำอะไรก่อนหรือเราควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี คนที่จะ Gap Year ส่วนใหญ่เรามักจะทำอะไรกันบ้าง ก็อย่างเช่น ท่องเที่ยว ออแพร์ เรียนภาษาที่ต่างประเทศ ทำงานในบริษัทต่างๆ หรือว่าการไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้คน ในการที่เรา Gap Year นั้นมีสิ่งต่างๆที่น่าสนใจมากเลย
ท่องเที่ยว ผจญภัย
การที่เราต้องการที่จะ Gap Year แล้วเลือกที่จะไปท่องเที่ยว หรือผจญภัยเพื่อที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆมากมายรอบๆตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นการไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศหรือการท่องเที่ยวภายในประเทศตัวเอง โดยการที่เราไปดูวิถีชีวิตในแต่ละที่ หรือจะเป็นการที่เราไปเรียนรู้ในขนบธรรมเนียบตามสถานที่เราไปเที่ยว
ออแพร์ (au pair )
คำว่าออแพร์คืออะไร ออแพร์คือการที่เราจะต้องไปอยู่อาศัยรวมกับโฮสแฟมิลี่ชาวอเมริกันเป็นระยะเวลา 1 ปี และ เราจะต้องคอยทำการดูแลลูกของโฮสแฟมิลี่ โดยที่เราจะได้ที่พักอาศัยฟรีรวมถึงมื้ออาหารต่อมื้อด้วย และค่าจ้างรายสัปดาห์และยังมีโอกาสที่จะได้เดินทางท่องเที่ยวและศึกษาเล่าเรียนด้วย
เรียนภาษาในต่างประเทศ
การไปเรียนภาษาในต่างประเทศในช่วงระยะเวลา 1 ปี ของการไป Gap Year ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับในการที่จะเรียนรู้ Gent ก็มีเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศต่าง ๆ เหมือนกันเช่นการไปเรียนในแถบทวีปต่างหรือในเขตแถบเพื่อนบ้าน ยกตัวอย่างเช่น
- การไปเรียนภาษาในประเทศอังกฤษ ด้วยความที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าของภาษาทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับความน่าสนใจในการเรียนภาษาเป็นอย่างมากและยังถือว่าเป็นประเทศที่คนไทยส่วนใหญ่ไปกันซะส่วนใหญ่
- เรียนภาษาที่อเมริกา สำหรับการไปเรียนภาษาที่อเมริกา ถือว่าเป็นเมืองในฝันสำหรับใครหลายๆคนด้วยความที่ขนบธรรมเนียบที่มีความอิสระและว่าไม่ถือตัวในบางเรื่องทำให้ประเทศนี้เหมาะมากสำหรับในการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง และสิ่งรอบๆตัว
- เรียนภาษาที่แคนาดา การไปเรียนภาษาที่แคนาดาถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกประเทศนึงเลยละด้วยความที่ประเทศแคนาดานั้นจะมีคนจากแถบเอเซียไปเยอะทำให้เราสามารถที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆของคนที่มาเรียนและยังรู้ในวัฒนธรรมของแคนาดาของแต่ละเขตได้อีกด้วย
- เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์ประเทศที่มีความเป็นธรรมชาติแล้วบรรยายกาศที่ดี เหมาะสำหรับบุคคลที่ชื่นชอบธรรมชาติและมีความสนใจที่อยากจะเรียนภาษาไปด้วย ประเทศนิวซีแลนด์ก็อาจจะตอบโจทย์สำหรับใครหลายๆคน
การทำงาน
ในการทำงานในช่วง Gap Year ถือว่าเป็นการเรียนรู้ชีวิตในด้านการทำงานต่างๆ และการเรียนรู้ในสิ่งที่ชอบด้วยความที่เราทำงานและได้เจอผู้คนมากมาย ก็อาจจะทำให้เราค้นพบตัวเอง ได้ว่าเราชอบอะไร และสนใจในสิ่งไหน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก
การเป็นอาสาสมัคร
ในช่วงที่เรา Gap Year แล้วเราเลือกที่จะไปเป็นอาสาตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาสาในการเรียนดูเด็กหรืออาสาช่วยคนที่บาดเจ็บ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับกันเป็นส่วนมากเพราะด้วยการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นที่ว่าเป็นคุณความดีได้อย่างหนึ่งเลยละ
ลงคอร์ดเรียนในคราสต่างๆ
การที่เราสนใจที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ แล้วต้องการที่จะลงคอร์ดเพื่อที่จะเพิ่มความสามารถให้กับตัวเองให้มากขึ้นและเรียนรู้ถึงความชอบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในด้าน การวาดภาพ ดนตรี การแกะสลัก หรือการเขียนโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในการหาความรู้ในด้านใดก็ถือว่าเป้นการค้นหาตัวตนและความชอบ
ทบทวนเกี่ยวกับตัวเอง
การที่เราต้องการที่จะ Gap Year ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ 1เดือน หรือ1ปี ไม่ว่าจะ Gap Year ในช่วงไหนก็ตามแต่ เพื่อที่เราจะต้องการนั่งทบทวนเกี่ยวกับตัวเองเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราจะต้องการที่จะเรียนต่อในด้านใดหรือว่าเราต้องการที่จะไปทำงานในด้านไหน การที่เรามีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นก็จะทำให้เรารู้มากขึ้นว่าเราต้องการอะไรและต้องการที่จะทำอะไร
ข้อเสียของ Gap Year
การ gap year ข้อเสียนั้นคือการที่เราอาจจะเข้าเรียนได้ช้ากว่าบุคคลรุ่นเดียวๆกัน หรือทำให้เราจบช้ากว่าเพื่อน และบางครั้งการ Gap Year บ้างบริษัทอาจจะมีความคิดว่าทำไมเราถึงต้องพัก แล้วช่วงที่พักเราทำอะไร จะทำให้เกิดคำถามขึ้นต่อการไปสมัครงาน
สรุป
การที่เราต้องการที่จะ Gap Year นั้นก็เพื่อที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเรามากขึ้นและเพื่อที่จะค้นหาตัวเองว่าเราชอบอะไรและเราสนใจในด้านไหน ไม่ว่าเราจะคิดว่าการที่เรา Gap Year ไปแล้วเราจะเป็นที่ยอมรับไหม ขอแค่ให้เราทำตามความต้องการที่เราอยากจะเรียนรู้หรือค้นหา เพราะการที่เราค้นหาตัวเองพบก็เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ในสิ่งสิ่งนั้นได้เร็วขึ้นและดีขึ้น
